รายงานผลกระทบของ Gen AI จาก WEF Chief Economists Outlook Jan 2024
รายงานของ World Economic Forum Chief Economists Outlook เล่มล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2024 ได้มีการพูดถึง Generative AI ไว้เป็นหัวข้อสำคัญ โดยมีการกล่าวถึงในสองแง่มุม คือการเพิ่ม productivity หรือประสิทธิภาพการผลิต และผลกระทบต่อสังคม โดยในบทความนี้ผมจะกล่าวถึงเฉพาะในด้านการเพิ่ม productivity เท่านั้น
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มีมาอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นช่วงการบูมของเทคโนโลยี deep learning ในช่วงทศวรรษที่ 2010 แต่เราก็ยังเห็นผลกระทบทางเศรษฐกิจในวงจำกัด
แต่เมื่อมีการเปิดตัวเทคโนโลยี Large Language Model (LLM) อย่าง ChatGPT, CoPilot หรือ Bard ในช่วงปลายปี 2022 รวมไปถึงเทคโนโลยี Generative AI อื่นๆ ที่ตามมาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ เนื่องจากการเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยี GenAI ได้ง่ายมากขึ้น
ผลการสำรวจผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐศาสตร์ถึง 50% ที่เชื่อว่า Gen AI จะสร้างผลกระทบทางการค้าอย่างมีนัยสำคัญ
ผลกระทบสำคัญที่เทคโนโลยี Gen AI จะสร้างขึ้นคือการเพิ่ม Productivity หรือความสามารถในการผลิต โดยมีการคาดการว่า Gen AI จะสามารถเพิ่ม productivity growth ทั่วโลกได้ถึง 1.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และเพิ่ม Global GDP ได้ 7% ในช่วงระยะเวลา 10 ปี และมีการคาดการณ์ในสถานการณ์ที่ดีที่สุด การใช้ AI อย่างแพร่หลายทั่วไป จะสามารถทำให้เกิดผลผลิตโดยรวมทั่วโลกเพิ่มขึ้นได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นศตวรรษนี้
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อ productivity นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอเท่าเทียมกัน มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างประเทศร่ำรวยกับประเทศยากจน โดยที่นักเศรษฐศาสตร์ 79% คาดการณ์ว่าประเทศร่ำรวยจะได้ประโยชน์จากการที่ผลผลิตเพิ่มขึ้นเนื่องจาก Gen AI เทียบกับแค่ 38% ในประเทศยากจน
ความเร็วหรือระยะเวลาที่เทคโนโลยี Gen AI จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ ก็มีความแตกต่างกันอย่างมากตามขนาดเศรษฐกิจเช่นกัน โดยนักเศรษฐศาสตร์ถึง 94% คาดการณ์ว่า productivity gain จะส่งผลสำคัญต่อเศรษฐกิจสำหรับประเทศร่ำรวยภายใน 5 ปี (และ 57% คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบเร็วภายใน 3 ปี) เมื่อเทียบกับเพียงแค่ 53% ที่คาดว่าประเทศยากจนจะได้รับผลกระทบลักษณะเดียวกันใน 5 ปี และเกือบครึ่ง (47%) คาดว่าประเทศยากจนจะใช้เวลานานกว่า 5 ปีที่จะได้รับประโยชน์จาก AI
ปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดว่าประเทศใดจะได้รับประโยชน์จาก AI มากเพียงใด ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิรัฐศาสตร์ของ AI (Geopolitics of AI) และการกำกับดูแลการใช้งาน AI ในแต่ละประเทศ โดยนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่ากลุ่มประเทศที่จะเห็นการเพิ่มประสิทธิผลจากการใช้ AI ในสามปีข้างหน้านี้ ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา จีน ยุโรป และเอเชียตะวันออกรวมถึงแปซิฟิก ซึ่งก็สอดคล้องกับแนวโน้มการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ โดยดูจากเงินลงทุนในสตาร์ทอัพสาย AI ในอเมริกา ที่สูงถึง $26 พันล้านเหรียญในปี 2023 ทิ้งห่างประเทศจีนที่เป็นอันดับสองถึง 6 เท่า
ภาคอุตสาหกรรมที่จะได้รัรบผลกระทบจาก productivity gain ของ Gen AI จะเป็นอุตสาหกรรมที่เน้นหนักด้านความรู้ หรือ knowledge heavy industries อย่างเช่นอุตสาหกรรมไอที การสื่อสารดิจิทัล ภาคบริการทางการเงิน และการให้บริการแบบ professional service รวมไปถึงอุตสาหกรรมการให้บริการทางสุขภาพ ค้าปลีก การผลิต การก่อสร้างและวิศวกรรม การพลังงาน รวมไปถึงภาคการขนส่ง
เกือบ 3 ใน 4 ของ productivity gain ที่ได้จาก AI เกิดจากพัฒนาการในด้านการวิจัยและพัฒนา การให้บริการลูกค้า การขายและการตลาด และการพัฒนาซอฟต์แวร์
Generative AI กำลังถูกคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของมนุษย์ในหลายด้าน รายงานชิ้นนี้ฉายภาพให้เห็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจผ่านมุมมองของประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น เราควรเริ่มให้ความสนใจและปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำงาน รวมถึงแนวทางการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสำคัญนี้ได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งเหล่า policy makers ก็ควรจะจับตาดูความเคลื่อนไหว แนวโน้ม และวางแผนเพื่อส่งเสริมการใช้งานอย่างถูกต้องให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด
Originally published at http://bzinsight.wordpress.com on February 10, 2024.